กระดูกพรุน ภัยเงียบใกล้ตัวคุณ
หากพูดถึงโรคกระดูกพรุน เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยได้ยินชื่อโรคนี้กันมาบ้างนะครับ วันนี้ EasyDoc จะขอมาอธิบายเพิ่มเติมให้ฟังกันเล็กน้อย โดยจะไม่ลงรายอะเอียดให้ลึกจนปวดหัวกันครับ
ชื่อโรคก็บอกอยู่แล้วนะครับว่า “กระดูกพรุน” ก็คือหมายถึงโรคที่ทำให้กระดูกนั้นเปราะบาง หรือหักง่าย ความน่ากลัวของโรคกระดูกพรุน คือเป็นโรคที่ “ไม่มีอาการใดๆ” เลยนะครับ
คนไข้จะไม่ได้มีอาการปวด หรือรู้สึกผิดปกติใดๆทั้งสิ้น แต่จะมารู้ตัวอีกทีก็คือ หลังจากมีอุบัติเหตุ หรือหกล้ม จนกระดูกหักไปแล้ว
สาเหตุของโรคกระดูกพรุน
โรคกระดูกพรุน มักจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อัตราประมาณ 4 ต่อ 1 โดยสาเหตุหลักมาจาก “อายุ และเพศ” นั่นเองครับ เหตุเพราะว่า ในเพศหญิงหลังจากที่หมดประจำเดือน หรือ Menopause ไปแล้วนั้น ฮอร์โมนเพศหญิง (Estrogen, Progesterone) ก็จะลดลงอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ซึ่งโดยปกติฮอร์โมน 2 ตัวนี้ละครับ ที่เป็นตัวสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกในเพศหญิง (ในเพศชาย จะมีอิทธิพลของฮอร์โมนตัวอื่นมาช่วยเรื่องกระดูกได้มากกว่า)
Note !! ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน มักมีการขาดวิตามิน 2 ชนิดด้วยกันครับ นั่นคือ แคลเซียม และ วิตามิน D ในปัจจุบัน จึงมีการแนะนำกันโดยทั่วไปครับ ว่าในผู้หญิงทุกคน ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป และเพศชายที่อายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจมวลกระดูก (Bone Mineral Density) เพื่อดูว่ามีภาวะกระดูกพรุนหรือไม่ครับ
ส่วนการปฏิบัติตัวง่ายๆ เพื่อป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนมีดังนี้นะครับ
1. ออกกำลังกายเป็นประจำ สม่ำเสมอ
2. ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่
3. โดนแสงแดดในยามเช้า หรือช่วงเย็นๆบ้าง เพื่อให้ร่างกายสามารถสร้างวิตามิน D ได้
4. เน้นทานอาหารที่มีแคลเซียมมาก เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม กุ้งแห้ง ปลาตัวเล็กๆ งาดำ ผักใบเขียว
5. ทานวิตามินเสริม แคลเซียม 1,000 กรัม และ วิตามิน D 400 IU (ยูนิต) ต่อวันครับ
เรื่องที่เล่าให้ฟังวันนี้ เป็นเพียงความรู้คร่าวๆเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุน เท่านั้นเองนะครับ
โอกาสหน้า จะมาเล่าแบบเจาะลึกให้ฟังกันอีกทีนึงนะครับ
ถ้าใครมีคำถาม หรือข้อคิดเห็นอะไรสามารถพูดคุย comment กันไว้ได้นะครับ
.
เครดิต รูปภาพจาก https://bit.ly/351QWR1
ผู้เรียบเรียง : นพ. ชัยเดช สระสมบูรณ์
แพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ ด้านกระดูกสันหลัง